"สิทธิเด็ก" และ พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553

ในอดีต รัฐ (state) อาจไม่ได้มีการคุ้มครองเด็กอย่างเต็มที่หรือเข้ามาดูแลเด็กอย่างเพียงพอเท่าที่ควร  การขาดความเข้าใจและการให้ความสำคัญต่อสิทธิของเด็กที่น้อยเกินไปอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการละเมิดสิทธิของเด็กเกิดขึ้นอย่างมากมายและต่อเนื่องในอดีต

สิทธิเด็ก

"สิทธิเด็ก" เป็นสิทธิที่สำคัญที่มีความสำคัญทั้งในระดับสากล (Universal Rights) และมี Absolute Rights ที่ต้องได้รับการรับรองและคุ้มครองตามพันธกรณีระหว่างประเทศ สิทธิเหล่านี้รวมถึงสิทธิในด้านการศึกษา สิทธิในการมีชีวิตที่ดี สิทธิในการได้รับการดูแลและความคุ้มครอง และสิทธิในการแสดงความเห็นและมีส่วนร่วมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง

The Convention อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก 

A  child is every individual below the age of 18 (unless in countries where the law applicable to the child differs) and are entitled to every right stipulated in the Convention on the Rights of the Child, which Thailand acceded to on the 12th February 1992. This means the government is obliged to take action to ensure that every child in the country, regardless of who they are, equally enjoy the rights under the Convention. It is also the duty of the government to report the progress to the UN Committee on the Rights of the Child (UNICEF)

เด็กคือใคร (Who are the children and youths?)

มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติที่ถามมีคำจำกัดความสำหรับคำศัพท์ "เด็ก" และ "เยาวชน" ดังนี้:

1. "เด็ก" หมายความว่าบุคคลซึ่งมีอายุเกินกว่าอายุที่กำหนดไว้ตามมาตรา 73 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แต่ยังไม่เกินสิบห้าปีบริบูรณ์

2. "เยาวชน" หมายความว่าบุคคลอายุเกินสิบห้าปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์

การคุ้มครองเด็กและเยาวชนมีความสำคัญอันมากมายเนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มที่อ่อนแอและต้องการความคุ้มครองพิเศษในหลายด้าน:

1. เพื่ออนาคตที่ดีของสังคม เด็กและเยาวชนเป็นผู้มีอนาคต ความคุ้มครองที่เหมาะสมต่อเด็กและเยาวชนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เติบโตและพัฒนาอย่างเหมาะสมสำหรับพวกเขา โดยการให้พวกเขามีโอกาสในการเรียนรู้ การเติบโต และพัฒนาตนเองให้สามารถแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตได้ ดังคำกล่าวที่ว่า เด็กคืออนาคตของสังคม (Children are the future of the society)

2. การรักษาความปลอดภัยและสิทธิของเด็กและเยาชน: เด็กและเยาวชนต้องมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเพื่อเป็นสิทธิของพวกเขาที่จะได้รับการปกป้องจากความเสี่ยงและความเสียหายที่เป็นไปได้ เช่น การละเมิดทางกฎหมาย เหยื่อของความรุนแรง หรือการคุกคามอื่น ๆ

3. การพัฒนาทางด้านร่างกายและจิตใจ: การคุ้มครองเด็กและเยาวชนรวมถึงการสนับสนุนในการเติบโตและพัฒนาทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้พวกเขาสามารถพัฒนาทักษะและความสามารถต่าง ๆ อย่างเหมาะสมตามวัย และมีความสุขที่ดีในชีวิต

4. การสนับสนุนในการศึกษาและการพัฒนาทักษะ: การคุ้มครองเด็กและเยาวชนรวมถึงการสนับสนุนในการศึกษาและการเรียนรู้ เพื่อให้พวกเขามีโอกาสในการพัฒนาทักษะและความรู้ที่จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาและสร้างชีวิตที่ดีในอนาคต

5. การส่งเสริมความเสมอภาค: การคุ้มครองเด็กและเยาวชนเชื่อมโยงกับการส่งเสริมความเสมอภาค โดยให้โอกาสเท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรและบริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การดูแลสุขภาพ หรือสิทธิอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเติบโตและพัฒนา

การคุ้มครองเด็กและเยาวชนเป็นภารกิจที่สำคัญของสังคม เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้มีอนาคตและเป็นสมาชิกสำคัญในสังคมในอนาคต

แม้ว่าหลายประเทศอาจจะได้รับการยอมรับและปฏิบัติตามสิทธิเด็กตามนี้อย่างมาก แต่ยังมีประเทศหรือสังคมที่ยังไม่มีการให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างเพียงพอ ทำให้มีการละเมิดสิทธิเด็กเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในบางกรณี บุคคลทั่วไปยังอาจมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิทธิเด็ก และเชื่อว่าเด็กไม่มีสิทธิใด ๆ ในทางกฎหมายที่สมเหตุสมผล เมื่อในที่จริงแล้วเด็กมีสิทธิต่าง ๆ อย่างมากมายตามที่กล่าวมาแล้ว

การสนับสนุนและคุ้มครองสิทธิเด็กจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการให้ความสำคัญ และการศึกษาสาธารณะเกี่ยวกับสิทธิเด็กนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อเพิ่มขึ้นความเข้าใจและการตระหนักในสังคมให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถป้องกันและรับมือกับการละเมิดสิทธิเด็กได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต.

พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553

 พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญในการปกป้องสิทธิและความเป็นธรรมของเยาวชนในระบบยุติธรรมของประเทศไทย โดยมีจุดสำคัญดังนี้:

1. การกำหนดคำนิยาม: บัญญัตินี้กำหนดคำนิยามของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง เช่น "เด็ก" และ "เยาวชน" เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนในการประชุมคดีที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน

2. การกำหนดหลักการและกระบวนการ: บัญญัตินี้กำหนดหลักการและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

3. การปกป้องสิทธิเยาวชน: บัญญัตินี้มุ่งเน้นในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของเยาวชนในการดำเนินคดี โดยให้ความสำคัญกับความเป็นระเบียบและความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน

4. การกำหนดเครื่องหมายทางไซเบอร์: บัญญัตินี้ยังมีการกำหนดเครื่องหมายทางไซเบอร์เพื่อใช้ในการประกาศเรื่องรับฟังความและประกาศคำพิพากษาในสื่อออนไลน์

ดังนั้น บัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญในการปกป้องสิทธิและความเป็นธรรมของเยาวชนในประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญในการให้ความยุติธรรมแก่เยาวชนที่เกี่ยวข้องกับระบบยุติธรรมของประเทศไทย

พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว รวมถึงวิธีการพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการคุ้มครองเด็กและเยาวชนในสังคม ดังนั้นเราจึงควรคุ้มครองเด็กและเยาวชนด้วยเหตุผลต่อไปนี้:

1. ความช่วยเหลือและการป้องกัน: เด็กและเยาวชนมักอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอและมีความเสี่ยงที่จะเป็นเหยื่อของการละเมิดหรือความเสี่ยงต่าง ๆ ดังนั้นการมีกฎหมายและวิธีการในการคุ้มครองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือและป้องกันจากความเสี่ยงที่เป็นอันตราย

2. การส่งเสริมพัฒนาการ: เด็กและเยาวชนมีสิทธิในการได้รับการพัฒนาที่เหมาะสมในด้านทักษะ และการรับรู้ เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตและเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ การมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและการรับการคุ้มครองเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กและเยาวชน

3. การสร้างสันติภาพในสังคม: การคุ้มครองเด็กและเยาวชนช่วยในการสร้างสันติภาพในสังคมโดยป้องกันการละเมิดและการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นต่อพวกเขา เมื่อเด็กและเยาวชนได้รับความเป็นธรรมและความเท่าเทียมในสังคม เส้นทางสู่การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนและมั่นคงจึงเป็นไปได้มากขึ้น

4. อนุรักษ์สิทธิและความเป็นมนุษย์: เด็กและเยาวชนมีสิทธิและความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ดังนั้นการคุ้มครองสิทธิและความเป็นมนุษย์ของพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตและมีชีวิตอย่างมีความสุขและมีความเป็นอิสระได้อย่างเหมาะสม

การคุ้มครองเด็กและเยาวชนไม่เพียงแต่เป็นหน้าที่ของรัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้อง แต่ยังเป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคมที่ต้องร่วมมือกันในการสร้างสังคมที่เป็นมิตรและปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชนทุกคน

การลงโทษเด็กและเยาวชน

เมื่อเด็กหรือเยาวชนถูกดำเนินคดี พวกเขาจะถูกดำเนินคดีในศาลเยาวชนและเยาวชน ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินคดีที่แตกต่างไปจากผู้ใหญ่ โดยพ.ร.บ.ศาลเยาวชนฯที่เป็นกฎหมายกำหนดขั้นตอนและวิธีการดำเนินคดีกับเด็กหรือเยาวชนมีเจตนารมณ์และบทบัญญัติที่มุ่งฟื้นฟูเด็กหรือเยาวชนที่ทำความผิดทางอาญามากกว่ามุ่งลงโทษ (อ้างอิง https://www.ilaw.or.th/articles/4673)

อ้างอิง

พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ (แก้ไขปรับปรุงตาม ฉบับที่ 2 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2558 ฉบับที่ 4 และฉบับที่ 5 พ.ศ. 2559)


อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กคืออะไร https://www.unicef.org/thailand/th/what-is-crc