Tuesday, April 23, 2024

Direct & Indirect Questions การถามทางอ้อมในภาษาอังกฤษ

Indirect Questions การถามทางอ้อมในภาษาอังกฤษ

 การถามคำถาม (asking questions) ในภาษาอังกฤษมีทั้งการถามแบบปกติ ตรงๆ และ การถามทางอ้อม เช่น การ Request 

และที่เจอบ่อยคือการใช้ inversion กับ Wh-words เช่น "where," "what," "when," "how," "why" เป็นต้น เพื่อสร้างคำถามหรือเงื่อนไข

Image: Janpha Thadphoothon with Canva


ตัวอย่าง:

1. ปกติ:  

   - Where are you?

   - What is your name?

   - When did you arrive?

   - How can I help you?

   - Why are you sad?


2. Inversion:  

   - Please tell me where you are.

   - Could you tell me what your name is?

   - Do you know when she arrived?

   - Could you explain how I can help you?

   - I wonder why you are sad.



ปกติเราเปลี่ยนจาก Commands หรือ การสั่ง เป็น Request หรือการขอร้อง ได้ โดยการเพิ่มคำ เช่น

Command: Sit down
Request: Please sit down.

เราสามารถเปลี่ยนจาก Questions เป็น Requests ได้

Question: What is your name?
Request: Please tell me what your name is. / Can you tell me your name?



   - Where did she go?

     - Can you tell me where she went?

   - What is your phone number?

     - Do you know what your phone number is?

   - When will they arrive?

     - Could you tell me when they will arrive?

   - How does this work?

     - Can you explain how this works?

   - Why is she crying?

     - Do you know why she is crying?


คำถามตรง (Direct Questions) และคำถามอ้อม (Indirect Questions)

คำถามตรง (Direct Questions) เป็นการถามคำถามเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจน มักใช้ Wh-words เช่น what, when, where, how, why นำหน้าประโยค และประโยคลงท้ายด้วยเครื่องหมายคำถาม (?)

ตัวอย่าง:

  • What is your name? (ชื่อของคุณคืออะไร?)
  • When will you come? (คุณจะมาเมื่อไหร่?)
  • Where are you going? (คุณกำลังจะไปไหน?)
  • How did you do it? (คุณทำมันได้อย่างไร?)
  • Why are you late? (ทำไมคุณถึงมาสาย?)

คำถามอ้อม (Indirect Questions) เป็นการถามคำถามแบบสุภาพ โดยใช้คำกริยาหรือวลีอื่น เช่น could you tell me, would you mind telling me, I wonder, I'm not sure, I'd like to know นำหน้าประโยค และประโยคลงท้ายด้วยเครื่องหมายวรรคตอน (.)

ตัวอย่าง:

  • Please tell me what love is. (ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าความรักคืออะไร?)
  • Would you mind telling me when you will come? (คุณจะมาเมื่อไหร่คะ?)
  • I wonder where you are going. (ฉันสงสัยว่าคุณกำลังจะไปไหน)
  • I'm not sure how you did it. (ฉันไม่แน่ใจว่าคุณทำมันได้อย่างไร)
  • I'd like to know why you are late. (ฉันอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงมาสาย)

จุดประสงค์ของการใช้คำถามอ้อม:

  • ถามแบบสุภาพ: คำถามอ้อมช่วยให้ดูสุภาพและเรียบร้อยกว่าการถามคำถามตรง
  • หลีกเลี่ยงการฟังดูก้าวร้าว: คำถามอ้อมช่วยลดทอนความก้าวร้าวหรือความกดดัน
  • กระตุ้นให้เกิดการสนทนา: คำถามอ้อมช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ตัวอย่างเพิ่มเติม:

คำถามตรง:

  • Do you like chocolate? (คุณชอบช็อกโกแลตไหม?)

คำถามอ้อม:

  • I wonder if you like chocolate. (ฉันสงสัยว่าคุณชอบช็อกโกแลตไหม)
  • Could you tell me if you like chocolate? (ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าคุณชอบช็อกโกแลตไหม)

คำถามตรง:

  • Are you going to the party tonight? (คุณจะไปงานปาร์ตี้คืนนี้หรือเปล่า?)

คำถามอ้อม:

  • I'd like to know if you are going to the party tonight. (ฉันอยากรู้ว่าคุณจะไปงานปาร์ตี้คืนนี้หรือเปล่า)
  • Would you mind telling me if you are going to the party tonight? (คุณจะไปงานปาร์ตี้คืนนี้หรือเปล่าคะ?)

คำถามตรง:

  • What time does the movie start? (หนังเริ่มฉายกี่โมง?)

คำถามอ้อม:

  • I'm not sure what time the movie starts. Could you tell me? (ฉันไม่แน่ใจว่าหนังเริ่มฉายกี่โมง ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม)
  • I wonder what time the movie starts. Do you know? (ฉันสงสัยว่าหนังเริ่มฉายกี่โมง คุณรู้ไหม)

สรุป:

การใช้คำถามตรงและคำถามอ้อม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสม

  • คำถามตรง: เหมาะสำหรับการถามคำถามที่ต้องการคำตอบที่ชัดเจน
  • คำถามอ้อม: เหมาะสำหรับการถามคำถามแบบสุภาพ หลีกเลี่ยงการฟังดูก้าวร้าว หรือกระตุ้นให้เกิดการสนทนา

ทดสอบดูอีกครั้งหากคุณต้องการเพิ่มความฉลาดในการใช้ inversion ในประโยคคำถามและเงื่อนไขแบบต่างๆ ในภาษาอังกฤษนะครับ!


No comments:

Post a Comment

ประเด็นเรื่องการสอนคำหยาบคาย (Issues of SOTL in ELT) ในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ

การจัดการกับคำหยาบ (Profane Language) ในการสอนภาษาอังกฤษ: แนวทางและข้อคิดเห็น Janpha Thadphoothon, Ed D  ในสถานการณ์การสอนภาษาอังกฤษ (ELT) ท...