Wednesday, May 20, 2015

แนวทางการเรียนรู้ภาษาอาเซียน (How to learn ASEAN languages more effectively and enjoyable)

บทความนี้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาอาเซียน ที่ทั้งมีประสิทธิภาพและนำมาซึ่งความหมายในการเรียนรู้ เรียกว่าเรียนสนุกและเข้าใจลึกและรวดเร็ว โดยมีสมมติฐานที่ว่า ภาษาของประเทศเพื่อนบ้านควรเริ่มจากการเรียนรู้ความคล้ายคลึงกันของภาษาแบบความรู้ตามแนวตะเข็บชายแดน แบบชาวบ้านร้านค้า แบบขาวบ้าน หรือ The Folk Way

แต่ก่อนที่ผมจะนำเสนอแนวความคิดและแนวทาง ขอนำเสนอมูลเหตุที่ภาษาอาเซ๊ยนเริ่มได้รับความสนใจจากคนในสังคมไทยมากขึ้นทำไมต้องเป็นภาษาอาเซียนเริ่มเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นแล้วว่า การบูรณาการสังคม เศรษฐกิจและการเมืองในระดับภูมิภาค กอรปกับกระแสโลกาภิวัตน์แนวใหม่เริ่มส่งผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรมของไทยและประเทศต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นนโยบายทงสังคม-วัฒนธรรมจึงสำคัญในการธำรงรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์อันดีงามและประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมของชาติ

ไทยเราเองก็ไม่ต่างกับชาติอื่น ๆ ที่ต้องมีแนวนโยบายและแผนปฏิบัติงานที่สอดคล้องและสามารถตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นการเดินทางติดต่อ ค้าขาย ท่องเที่ยว ทำงานระหว่างกันของประชาชน มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะเพิ่มทั้งจำนวนและบทบาทมากขึ้นอีก สิ่งนี้ย่อมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม จากสังคมที่ประกอบขึ้นด้วยวัฒนธรรมเดี่ยว หรือ mono-cultural state ไทยเริ่มเข้าสู่สภาวะของชาติที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากขึ้น เรียกว่าเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม พหุอัตลักษณ์ หรือ multicultural society ภาษาถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม


การที่มีคนจากประเทศเพื่อนบ้านเดินทางมาทำงาน ท่องเที่ยว ติดต่อค้าขายกับไทย ย่อมหมายถึงการเข้ามาของภาษาประเทศเพื่อนบ้านอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้

การมีมุมมองหรือมีทัศนคติในแนวทางสร้างสรรค์ ทางบวกคือจุดเริ่มต้นที่ถูกต้อง การเรียนรู้ภาษาอาเซียนเช่นภาษาเมียนมา หรือ เขมร ควรมองว่าทั้งสองภาษาคือภาษาของคนไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนด้วยเช่นกัน ไม่ควรมองว่าเป็นเรื่อไกลตัว เป็นสิ่งที่ยาก หรือ ต้องอาศัยทฤษฎีขั้นสูงในการเข้าใจ ไม่ควรมองภาษาเพื่อนบ้านแบบเดียวกับการมองภาษาตะวันตกบางภาษาที่วางตำแหน่งของภาษาเอาไว้ในที่สูงเกินไป แบบที่ชาวบ้านเอื้อมไม่ถึง

โดยธรรมชาติแล้ว ภาษาทุกภาษามีสถานะในการสื่อสารเท่าเทียมกัน แต่การให้คุณค่าของมนุษย์เราเองนี่แหละที่คือตัวปัญหา บางคนใช้ภาษาเป็นหน้ากาก หรือ mask ปิดกั้นตัวเองและคนอื่น ๆ สร้างมาตรฐานและกฎเกณฑ์ขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง




การที่ภาษาอาเซียนเพิ่งเริ่มเปิดตัว ผมจึงอยากให้มองภาษาอาเซียนแบบชาวบ้าน เหมือนเช่นที่อาจารย์สอนภาษาอินโดนีเซียเคยคุยกับผมว่า ภาษาอินโดนีเซียน ภาษามาเลย์ นั้นคือ " ภาษาบ้านเรา .


คำว่าภาษาบ้านเรา นี้ ในทัศนะของผมถือว่าถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง ถูกต้องในหลาย ๆ มิติ ประการแรกคือ มันเป็นความจริง และเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และเข้าถึง




การเน้นที่การสื่อสาร มากกว่าการเน้นความถูกต้องทางแกรมม่า หรือหลักไวยากรณ์ ทำให้การสื่อสารสนุกและมีความน่าสนใจ การ "ด้นสด ๆ " ไม่ต้องพิถีพิถันจนเกินไป ทำให้การพูดคุยสนุกและเป็นธรรมชาติ

ผมเคยได้ยินคุณพ่อพูดคำว่า "โตนา" กับ "มาซีบาย" สมัยยังเป็นเด็ก เวลาที่คุยกับชาวบ้าน เพื่อนบ้านที่เป็นชาวเขมรและส่วย (กุย) เรียกได้ว่าคุ้น ๆ หู แม้จะไม่มีใครบอกแต่ผมพอเดาได้ว่า "โตนา" คือ "ไปไหน" และการเรียกให้เขามาร่วมกินข้าวคือ "มาซีบาย" แม้พ่อจะไม่รู้คำว่า "โม. ที่แปลว่า มา ก็ตาม แต่การสื่อสารก็เชื่อมความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านและคนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี







No comments:

Post a Comment

In Search of Silence and Solitude

 In Search of Silence and Solitude By Janpha Thadphoothon Amidst the noises and confusion (online), the last thing we need is more data and ...